ข้าวเกรียบถูกใส่ไว้ในถุงถนอมอาหารยูสซี่และถูกใส่ไว้ในถุงซิปล็อคทั่วไป เมื่อเวลาผ่านไป 5 วัน ข้าวเกรียบในถุงซิปล็อคทั่วไปมีความนิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านไป 10 วัน ข้าวเกรียบจะมีความนิ่มมากจนหักได้ง่าย ในขณะเดียวกันข้าวเกรียบที่ถูกใส่ไว้ในถุงถนอมอาหารยูสซี่ยังคงมีความกรอบอยู่

ความแตกต่างระหว่างถุงถนอมอาหารยูสซี่กับถุงซิปทั่วไปในการเก็บข้าวเกรียบ

🤩 ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
 
ถุงถนอมอาหารยูสซี่” ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชัน❗️
 
🙏 ขอบคุณรีวิวจากผู้ใช้งาน ✍️
 
ข้าวเกรียบที่ใช้ถุงถนอมอาหารยูสซี่ยังคงกรอบมาก แต่ในขณะเดียวกันข้าวเกรียบที่ใช้ถุงซิปล็อคทั่วไปเกิดความชื้นจนข้าวเกรียบแตก
 
ในครอบครัวมีเด็กเล็ก 👪 จึงต้องมีอาหาร เช่น ข้าวเกรียบ บิสกิต คุกกี้ แครกเกอร์ ฯลฯ ที่บ้าน เมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ ถุงถนอมอาหารยูสซี่ คุณแม่จึงตัดสินใจทดสอบความแตกต่างของรสชาติข้าวเกรียบในครั้งนี้ เพื่อดูว่ามีความแตกต่างกันจริงหรือไม่❗️
 
ข้าวเกรียบถูกใส่ไว้ในถุงถนอมอาหารยูสซี่และถูกใส่ไว้ในถุงซิปล็อคทั่วไป เมื่อเวลาผ่านไป 5 วัน ข้าวเกรียบในถุงซิปล็อคทั่วไปมีความนิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านไป 10 วัน ข้าวเกรียบจะมีความนิ่มมากจนหักได้ง่าย ในขณะเดียวกันข้าวเกรียบที่ถูกใส่ไว้ในถุงถนอมอาหารยูสซี่ยังคงมีความกรอบอยู่❗️
ข้าวเกรียบที่ถูกใส่ไว้ในถุงถนอมอาหารยูสซี่ยังคงมีความกรอบอยู่
ข้าวเกรียบที่ถูกใส่ไว้ในถุงถนอมอาหารยูสซี่ยังคงมีความกรอบอยู่
ข้าวเกรียบมีความนิ่มมากจนหักได้ง่าย
ข้าวเกรียบที่ใช้ถุงซิปล็อคทั่วไปจะมีความนิ่มมากจนหักได้ง่าย
อาหารอย่าง “เค้กข้าว” มักมีติดไว้ในครอบครัว และเด็กเล็กไม่สามารถรับประทานให้หมดได้ภายในครั้งเดียว พวกเขามักจะรอจนถึงเวลาทานครั้งต่อไปที่อยากทาน และเมื่อเก็บไว้รสชาติความอร่อยมักจะแย่ลง
 
ถุงถนอมอาหารยูสซี่ช่วยคุณแม่ได้เยอะจริงๆ ช่วยเก็บรสชาติและความกรอบได้อย่างดี ทำให้ไม่ต้องทิ้งอาหารโดยสูญเงินเปล่า