การจัดส่งผักผลไม้สดนั้นมีความซับซ้อนมาก และ supply chain ต้องทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อให้ผลผลิตสามารถไปถึงผู้บริโภคปลายทางในสภาพที่สมบูรณ์ โดยพวกเขาต้องคำนึงถึงบรรจุภัณฑ์ อุณหภูมิ ความชื้น และปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลผลิตมีความสดใหม่และไม่ได้รับความเสียหายขณะขนส่ง
ผักผลไม้ถูกจัดส่งได้อย่างไร?
ผลผลิตที่เราบริโภคทุกวันต้องผ่านห่วงโซ่อุปทานซับซ้อนเพื่อไปถึงผู้บริโภค ห่วงโซ่อุปทานจากเกษตรกรสู่บริษัทบรรจุภัณฑ์และบริษัทขนส่ง จากนั้นไปยังผู้ค้าส่งหรือผู้ค้าปลีก และสุดท้ายปลายทางคือผู้บริโภค supply chain อาจยาวอย่างน่าประหลาดใจ หากคุณไม่ซื้อสินค้าในท้องถิ่น และสินค้ายังคงต้องสดแม้ supply chain จะยาวแค่ไหนก็ตาม
ค้นหาผลผลิตที่สมบูรณ์แบบ
ในขั้นตอนแรกของการขนส่งผักผลไม้จะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ เพื่อตรวจว่าชนิดใดที่สามารถขนส่งได้ มีผลผลิตที่สมบูรณ์แบบ ปราศจากความเสียหายและรอยช้ำ จากนั้นจึงเลือกผักผลไม้ที่ยังไม่สุกงอมเพื่อใช้ในการขนส่ง
เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนต่อไป ผู้ขนส่งต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดส่ง เช่น แอปเปิล ส้ม ลูกแพร์ ที่มีเปลือกแข็งนั้นดีสำหรับการขนส่งที่ยาวนาน เพราะผลไม้เหล่านี้แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักได้ ผลไม้ที่นิ่มกว่า เช่น ลูกพลัม ลูกพีช จะต้องบรรจุและจัดการอย่างระมัดระวัง เมื่อเลือกบรรจุภัณฑ์ได้แล้ว ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆอีก เช่น วิธีการรับมือจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน
ผักผลไม้ เช่น แตงโม จะถูกส่งในถาด ในขณะที่มะเขือเทศ หัวหอมและแตงกวาจะจัดส่งในลังผลไม้หรือถุงพลาสติก รายการอื่นๆ เช่น กะหล่ำ จะบรรจุในถุงพลาสติก ผลไม้ที่แข็งแรงกว่าบางชนิด เช่น กล้วย จะเรียงซ้อนกันเป็นกระจุก และสับปะรดจะเรียงกันป็นแถวโดยให้ใบหงายขึ้น
การจัดส่งผลผลิต
เมื่อบรรจุผลผลิตเรียบร้อยแล้วก็พร้อมที่จะจัดส่ง ผู้ให้บริการต้องตระหนักถึงวิธีการจัดส่งเนื่องจากผักผลไม้บางชนิดไม่สามารถขนส่งร่วมกันได้ ผลไม้ทุกชนิดจะมีการปล่อยก๊าซที่ไม่เป็นอันตรายซึ่งเรียกว่า “ก๊าซเอทิลีน” ภายหลังจากการเก็บเกี่ยว และผลไม้จะมีการปล่อยก๊าซในปริมาณที่แตกต่างกัน ก๊าซเอทิลีนนี้ทำให้ผลไม้บางชนิด เช่น มะเขือเทศ พริก สุกและเน่าเสียได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงต้องแยกผลไม้บางประเภทออกจากผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีนปริมาณมากออกมา
ผู้ให้บริการขนส่งต้องพิจารณาด้วยว่าสินค้ากำลังจะไปปลายทางที่ใด ประเทศส่วนใหญ่จำกัดการขนส่งข้ามพรมแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียที่อาจทำลายระบบนิเวศในท้องถิ่น ดังนั้นจึงมีกฏเกณฑ์และข้อบังคับสำหรับการขนส่งที่แตกต่างกัน
ตัวเลือกการขนส่งมีสามทางคือ ทางอากาศ ทางบก และทางทะเล การขนส่งทางอากาศจะมีราคาแพงที่สุด แต่จำเป็นสำหรับอาหารที่มีอายุการเก็บรักษาสั้นมากและต้องการการจัดส่งที่รวดเร็วเพื่อถึงผู้บริโภคในขณะที่อาหารยังคงความสดอยู่ การขนส่งทางบกมักใช้กับสินค้าที่สามารถเดินทางได้ตั้งแต่ 2-3 วัน และสามารถขนส่งระบบเย็นเพื่อให้อาหารสด วิธีการขนส่งที่ช้าและประหยัดที่สุดคือการขนส่งทางทะเล แต่วิธีนี้ใช้ได้กับอาหารที่ไม่เสียเร็วเท่านั้น
มีตัวเลือกการขนส่งหลักสามทางสำหรับผลิตผล: ทางอากาศ ทางรถไฟ และทางทะเล การขนส่งทางอากาศมีราคาแพงที่สุดแต่จำเป็นสำหรับอาหารที่มีอายุการเก็บรักษาสั้นมากและต้องการการจัดส่งที่รวดเร็วเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในขณะที่อาหารยังสดอยู่ การขนส่งทางรถไฟมักใช้สำหรับสินค้าที่ต้องเดินทางไปทุกที่ตั้งแต่ 2-3 วัน และรถไฟยังติดตั้งที่หุ้มฉนวนและระบายความร้อนด้วยน้ำแข็งเพื่อให้อาหารสด วิธีการขนส่งที่ช้าและประหยัดที่สุดคือการขนส่งทางทะเล แต่วิธีนี้ใช้ได้กับอาหารที่ไม่เน่าเสียเร็วเท่านั้น
ความท้าทายในการขนส่ง
แม้ว่าแนวคิดการขนส่งผลผลิตจะดูเรียบง่าย แต่ก็มีความยุ่งยากหลายอย่าง ในแต่ละปีจะสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์เนื่องจากอาหารเน่าเสียระหว่างทางในการขนส่ง ผลการศึกษาพบว่าอาหาร 33% สูญเสียไปอย่างน่าตกใจ และอายุขัยของผลผลิตครึ่งหนึ่งอยู่ระหว่างการขนส่งในการเก็บรักษา
การสูญเสียผลผลิตระหว่างทางส่วนใหญ่เกิดจากการเน่าเสียในขณะที่มีการขนส่ง เช่นเดียวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผักและผลไม้ทำให้ไม่สามารถนำไปขายได้
อุณหภูมิและความชื้น
เราจำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อรักษาความสดในขณะที่มีการขนส่ง สิ่งสำคัญคือต้องเก็บผลผลิตไว้ในที่เย็นและแช่เย็น เนื่องจากแบคทีเรียและเชื้อโรคสามารถเติบโตได้เมื่ออุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น
ผลไม้ เช่น ส้ม องุ่น และเชอร์รี่ ต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 0 – 2 องศาเซลเซียส ความชื้น 95 – 100% ในทางกลับกัน กระเทียมและหัวหอมควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิใกล้เคียงกัน ระดับความชื้น 65% – 75% เนื่องจากความชื้นที่สูงส่งผลเสียต่อกระเทียมและหัวหอม
ผลผลิตอื่นๆ เช่น กล้วย อะโวคาโด และมะม่วง อาจเสียหายจากความเย็นได้ ดังนั้นควรเก็บไว้อุณหภูมิ 13 – 15 องศาเซลเซียส ความชื้น 85% – 90%
อย่างที่คุณทราบ ปัจจัยต่างๆสำหรับการรักษาความสดและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จะแตกต่างกันและมีความเฉพาะเจาะจง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ให้บริการขนส่งที่จะมั่นใจได้ว่าพวกเขากำลังปรับสภาพแวดล้อมในการจัดส่งให้เหมาะสมกับผลิตผลที่สุด
ความเสียหาย
สาเหตุทั่วไปอีกประการที่ทำให้อาหารเน่าเสียก่อนถึงมือผู้บริโภคคือ ความเสียหายจากการกระแทก ผู้บริโภคไม่ต้องการซื้อสินค้าที่มีรอยช้ำหรือได้รับความเสียหาย ดังนั้นหากได้รับความเสียหายในระหว่างการจัดส่งก็จะไม่มีทางที่สินค้าจะนำไปวางขายที่ร้านค้า
การกระแทกและการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่งอาจทำให้ผลผลิตเสียหายอย่างร้ายแรง และนี่เป็นความเสี่ยงอย่างมากหากสินค้าไม่ได้รับการบรรจุอย่างถูกต้อง ในความเป็นจริง หากขนส่งมีสินค้าที่ต้องจัดส่งในปริมาณที่มากเกินไป พวกเขาอาจจะบรรจุสินค้าจำนวนที่มากเกินไปในรถหนึ่งคันเพื่อลดต้นทุน ซึ่งมักส่งผลทำให้สินค้าได้รับความเสียหาย
การบันทึกข้อมูลและกระบวนการขนส่งเย็น (Cold Chain; โซ่ความเย็น)
แม้ว่าจะมีความท้าทายเป็นอย่างมากที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งผักผลไม้สด แต่ก็มีวิธีการและเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถนำมาใช้เพื่อลดความเสี่ยงและปรับปรุงคุณภาพได้
การบันทึกข้อมูลช่วยให้ผู้บริการขนส่งสามารถปรับวิธีการจัดส่งและการจัดเก็บอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าผลผลิตนั้นปลอดภัยและสดใหม่ การบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้เซ็นเซอร์เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ เช่น อุณหภูมิ แสงสว่าง ความชื้น เพื่อตรวจสอบผลผลิตที่จัดส่ง
โดยทั่วไป เครื่องบันทึกข้อมูลเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้สะดวกต่อการใช้งานระหว่างการขนส่ง ข้อมูลจะผ่านอุปกรณ์และมักถูกย้ายไปเครือข่ายหรือคลาวด์แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ให้บริการขนส่งสามารถทำการวัดช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามข้อกำหนดด้านอุณหภูมิและความชื้น
การบันทึกข้อมูลเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการโซ่ความเย็น (Cold Chain) ซึ่งหมายถึงขั้นตอนต่างๆหรือการเชื่อมโยงในห่วงโซ่การขนส่งที่ต้องเกิดขึ้นเพื่อย้ายผลิตภัณฑ์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้สามารถถึงมือผู้บริโภคปลายทางได้ในที่สุด
หากอุณหภูมิไม่คงที่ในตลอดกระบวนการโซ่ความเย็น ผลผลิตอาจเน่าเสียหรือไม่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค ส่งผลให้อาหารเน่าเสียและสูญเงินเปล่าสำหรับการจัดส่ง
ดังนั้น การสื่อสารและการวางแผนด้านการขนส่งระหว่างผู้ประกอบการขนส่งห้องเย็น คลังสินค้าห้องเย็น และอุปกรณ์ห้องเย็นที่ปลายทางต้องมีความชัดเจน
แม้ว่าการขนส่งสินค้าให้มีความสดจะมีความท้าทายและซับซ้อน การตรวจสอบแต่ละขั้นตอนของกระบวนการขนส่งสามารถมั่นใจได้ว่าผลผลิตจะส่งถึงมือผู้บริโภคปลายทางได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้รับความเสียหาย เทคโนโลยี เช่น การบันทึกข้อมูลและกระบวนการโซ่ความเย็น (Cold Chain) สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีผักผลไม้ที่สดรับประทานเป็นประจำทุกวัน
ขอบคุณบทความจาก logmore
Recent Posts
-
ทุเรียน ราชาผลไม้เมืองไทย11 April 2022/0 Comments
-
หมดปัญหาการเก็บอาหารในตู้เย็น10 February 2022/
-
อันตรายจากสารอะฟลาทอกซิน ที่พบได้ในถั่ว29 January 2022/
ถุงยืดอายุผักผลไม้ยูสซี่แบบ Roll Bag
ถุงยืดอายุยูสซี่ถูกคิดค้นมาเพื่อบรรจุผักผลไม้โดยเฉพาะเพื่อให้ผักผลไม้คงความสดได้ยาวนาน โดยถุงถนอมผักผลไม้ยูสซี่แบบ Roll Bag ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายทางด้านถุงบรรจุภัณฑ์
4 นวัตกรรมจากไต้หวันในถุงยืดอายุยูสซี่ ที่ช่วยดูดซับสารเร่งสุกของผักผลไม้ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผักผลไม้ไม่สุกเร็วเกินไป อีกทั้งถุงยูสซี่ยัวช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม และถุงสามารถระบายอากาศได้ดี ผักผลไม้หายใจได้สะดวกทำให้มีอายุยาวนานยิ่งขึ้น และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือถุงยูสซี่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเน่าเสียของผักผลไม้ได้
-
Add to WishlistAdd to Wishlist